กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แบบรักษาได้ด้วยยา VS กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ต้องผ่าตัด ต่างกันยังไง?

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แบบรักษาได้ด้วยยา VS กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ต้องผ่าตัด ต่างกันยังไง ?

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อตาเกิดความผิดปกติจนไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ซึ่งเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงวัย โดยผู้ที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจะมีอาการหนังตาหย่อน ตาปรือ ตาไม่เท่ากัน เวลาลืมตาหนังตาขยับขึ้นได้น้อย จนสังเกตเห็นได้ชัดว่าหนังตาหย่อนลงมาปิดตาดำ ซึ่งโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความมั่นใจ สูญเสียบุคลิกภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการมองเห็น การเคลื่อนไหวใบหน้า ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย เรียกได้ว่ากระทบไปหมดทุกส่วนจริง ๆ

 

แต่รู้หรือไม่ ? ว่าโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงของแต่ละคนมีวิธีการรักษาที่ไม่เหมือนกัน ด้วยความที่โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงบางประเภทสามารถรักษาหายได้ด้วยยา โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ในขณะที่อีกประเภทต้องเข้ารับการผ่าตัดเท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้ตากลับมาลืมได้เต็มดวงเหมือนปกติได้

 

แล้วแต่ละแบบแตกต่างกันยังไง ? ควรเลือกรักษาแบบไหนดี ?

วันนี้ แมกโนเลีย คลินิก จะพาทุกท่านไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันค่ะ

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แบบรักษาได้ด้วยยา

 

Myasthenia Gravis หรือที่เรียกกันย่อ ๆ ในกลุ่มแพทย์และคนไข้ว่า “โรค MG” เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายระบบของร่างกาย ซึ่งหากเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อบริเวณดวงตาก็จะทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ocular Myasthenia Gravis) ภาวะที่เปลือกตาหรือกล้ามเนื้อยึดลูกตาอ่อนแรงหลังจากใช้งานไประยะหนึ่ง โดยมีอาการสำคัญคือ หนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น โฟกัสภาพไม่ได้ เกิดภาพซ้อน ลักษณะคือเห็นภาพ 2 ภาพเหลื่อมกันหรือเห็นภาพแยกออกจากกัน เนื่องจากแนวการมองของดวงตาทั้งสองข้างไม่มองไปในตำแหน่งเดียวกัน แต่หากคนไข้ปิดตาข้างใดข้างหนึ่ง ภาพซ้อนดังกล่าวก็จะหายไปค่ะ

 

และด้วยความที่โรค MG มีสาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเฉพาะที่บริเวณรอยต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อลาย ส่งผลให้สารสื่อประสาทบริเวณนั้นทำงานลดลง และมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดขึ้นได้ ในส่วนของอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากโรค MG เองก็เกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันเช่นกันค่ะ เพราะร่างกายเกิดการต่อต้านกระแสประสาทกับกล้ามเนื้อตา ทำให้การควบคุมกล้ามเนื้อตาเกิดความผิดปกติ สามารถรักษาด้วยการใช้ยาได้ โดยแพทย์จะเลือกใช้ตัวยา 3 กลุ่ม ได้แก่

 

  • กลุ่มยากระตุ้นการทำงานของสื่อประสาท เป็นยาที่นิยมใช้รักษากล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะ เพราะมีความปลอดภัยสูง ยาตัวนี้จะเข้าไปช่วยให้กระแสประสาทกับกล้ามเนื้อตาทำงานเป็นปกติ แต่ผลลัพธ์ที่ได้อยู่ได้ในระยะสั้น จึงต้องทานต่อเนื่องหลายครั้งต่อวัน ซึ่งยาตัวนี้มีผลข้างเคียงหากทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิด อาการปวดท้อง ท้องเสีย และกล้ามเนื้อกระตุกได้ ดังนั้น ผู้ที่ทานยาตัวนี้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และหากมีอาการผิดปกติควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบเร็วที่สุด

 

  • กลุ่มยาสเตียรอยด์ เป็นยาที่ช่วยแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ในระยะสั้น และจะใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เนื่องจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานผิดปกติ ออกมาต่อต้านการทำงานของกระแสประสาท และกล้ามเนื้อตา จึงทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยยาสเตียรอยด์จะเข้าไปช่วยกดการทำงานของภูมิคุ้มกันลง ให้กระแสประสาทกับกล้ามเนื้อตาทำงานได้ปกติ แต่ไม่ควรใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักเพิ่มขึ้น สิวเห่อ อารมณ์แปรปรวน ปวดกล้ามเนื้อ รวมถึงเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

 

  • กลุ่มยากดภูมิคุ้มกัน เป็นกลุ่มยาที่จะใช้กับเคสกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขั้นรุนแรง ที่ไม่ตอบสนองต่อกลุ่มยากระตุ้นสื่อประสาท และกลุ่มยาสเตียรอยด์ หรือเกิดผลข้างเคียงรุนแรงเมื่อใช้ยาสเตียรอยด์ ซึ่งการทำงานของยากดภูมิคุ้มกันนั้นจะทำงานคล้าย ๆ กับกลุ่มยาสเตียรอยด์ คือ จะเข้าไปกดภูมิคุ้มกัน เพื่อให้กระแสประสาทกับกล้ามเนื้อตาทำงานได้ปกติ แต่ผลข้างเคียงของยาตัวนี้จะรุนแรงกว่า นั่นคือ ทำให้ผู้ที่กินเข้าไปรู้สึกเหนื่อยล้า เบื่ออาหาร มีฤทธิ์ทำลายตับ และไขกระดูก ดังนั้นผู้ที่ทานยานี้จะต้องได้รับการตรวจเลือดอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่รุนแรงนั่นเองค่ะ


    ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แบบรักษาได้ด้วยการผ่าตัด


    ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) ที่ไม่ได้เกิดจากโรคและระบบภูมิคุ้มกัน ถือเป็นภาวะที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาได้เหมือนกลุ่มที่เป็นโรค MG โดยภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้น คือภาวะที่ดวงตาลืมได้ไม่สุด เปลือกตาด้านบนปิดลงมามากกว่าปกติทำให้เห็นตาดำไม่ครบวง ดวงตาดูปรือ ลืมตายาก หากเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทั้ง 2 ข้างจะทำให้เหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงข้างเดียวก็จะเห็นได้ชัดว่าตาไม่เท่ากัน ตาข้างที่เป็นจะตกลงมาปิดตามากกว่า กรณีนี้เรามักจะสังเกตเห็นได้ด้วยตนเองเลยค่ะ


    โดยภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเหล่านี้ บางคนอาจเป็นมาแต่กำเนิดอยู่แล้ว หรือเกิดขึ้นภายหลังจากการใช้ชีวิตประจำวันก็ได้เช่นกัน เช่น การใส่คอนแทคเลนส์หรือขยี้ตาจนเป็นนิสัย บางคนมีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าตาไม่สวยเหมือนคนอื่น ตาสองชั้นหลบในจนเหมือนคนมีตาชั้นเดียว หนังตาตก หางตาตก ลืมตายาก สารพัดปัญหาที่จะเข้ามากระทบกับความมั่นใจและบุคลิกภาพของเรา ซึ่งจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้นค่ะ


    แต่ในการแก้ไขภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้วยการผ่าตัด ควรต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์เฉพาะทางผู้มากประสบการณ์เท่านั้น โดยในการผ่าตัดแพทย์จะทำการเย็บตรึงชั้นตาที่อ่อนแรง ด้วยการเลาะกล้ามเนื้อตาส่วนที่เรียกว่า ลีเวเตอร์ (Levator) เป็นส่วนที่ลึกเข้าไปในชั้นตาออกมา และเย็บให้ชั้นตาแข็งแรง ซึ่งจะมีเทคนิคการตกแต่ง และรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละรายว่ามีปัญหามากน้อยแค่ไหน ดังนั้นการผ่าตัดทำหัตถการในส่วนนี้จึงจำเป็นต้องอาศัยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์สูงจริง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการผ่าตัด ไม่ต้องคอยมาแก้หน้า แก้ตาบ่อย ๆ ให้ปวดใจ


    ผลลัพธ์ที่ได้เมื่อผ่ารักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง นอกจากจะสามารถแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาไม่เท่ากัน ตาปรือ และตาง่วง ให้กลับมาเป็นปกติได้แล้ว ยังสามารถช่วยให้ชั้นตาเป็นเส้นคมชัด ขนาดพอดีกับดวงตาของเรา ส่งผลใบหน้าดูสดใสมากขึ้น สวยน่ามองยิ่งขึ้น แถมยังได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้อีกด้วย


    • ดวงตาสดใส เสริมบุคลิกให้ดูดี
    • ชั้นตาคมสวย พอดีกับใบหน้า
    • ตาทั้ง 2 ข้างดูเท่ากัน
    • ดวงตาหวานละมุนขึ้น ไม่ดุ
    • แต่งหน้าได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องใช้สติ๊กเกอร์ตาสองชั้น
    • ช่วยลดการเกิดริ้วรอยหน้าผาก และระหว่างคิ้วได้ เพราะไม่ต้องเลิกคิ้วเวลาเพ่งมอง

    ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แก้ไขได้ไม่ยากที่ แมกโนเลีย คลินิก อย่าปล่อยให้อาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่และบุคลิกภาพของคุณนานเกินไป เพราะเราสามารถแก้ไขให้คุณได้ครบจบทุกปัญหา มีผลงานการันตีมากมายหลายเคส บอกเลยว่าทุกคนที่เข้ามาทำศัลยกรรมกับเรา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประทับใจ เพราะที่นี่มีความปลอดภัยสูง คุณหมอกิฟท์ใส่ใจดูแลด้วยตัวเองทุกเคส แถมยังมีแผลผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน ผ่าตัดวันนี้ วันพรุ่งนี้ไปทำงานต่อได้เลย ไม่บวม ไม่ช้ำ แทบไม่เหลือรอยแผลเป็นแน่นอนค่ะ


    สนใจสอบถามหรือนัดหมายเพื่อใช้บริการกับ แมกโนเลีย คลินิก ติดต่อเรามาได้ทุกเวลาค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *